[มือสอง] พระนังตราท่าเรือหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินปี19ออกที่วัดภูตะแบง พิมพ์นี้หายากมากครับ

561 สัปดาห์ ที่แล้ว - กรุงเทพมหานคร - คนดู 580

800 ฿

  • พระนังตราท่าเรือหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินปี19ออกที่วัดภูตะแบง พิมพ์นี้หายากมากครับ รูปที่ 1
  • พระนังตราท่าเรือหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินปี19ออกที่วัดภูตะแบง พิมพ์นี้หายากมากครับ รูปที่ 2
  • พระนังตราท่าเรือหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินปี19ออกที่วัดภูตะแบง พิมพ์นี้หายากมากครับ รูปที่ 4
รายละเอียด

พระนังตราท่าเรือหลวงปู่สรวงเทวดาเล่นดินปี19ออกที่วัดภูตะแบง พิมพ์นี้หายากมากครับ เปิดให้บูชา 800 บาท ราคาเบาสุดๆ
สนใจติดต่อ  ธนวัฒน์ โทร0870977567 โทร0856892342 โทร 0877029896
ค่าส่งอีกองค์ละ 50 บาทส่งด่วนทางไปรษณีแพ็คกล่องอย่างดีกันกระแทกครับท่าน
ของแท้ราคาเบาๆ ทำเพื่อเผยแผ่คุณงามความดีของหลวงปู่ในราคาแบ่งกันใช้ครับ เงินที่ได้มาส่วนหนึ่งก็จะนำไปทำบุญให้ทาน ตามที่หลวงปู่บอกมา รับส่วนบุญกันทุกคนครับ สวัสดี
   ขอเล่าประสพการณ์จากลุงบุญเลิศผ่านเว็บพี่อำพลต่อนะครับ ขอให้พี่และลุงจงมีความสุขครับ
   ก่อนปี 2525 หลวงตามีที่พำนักประจำอยู่ที่บ้านละลม อำเภอขุขันธ์
เป็นที่นาของยายอึ๊บ ซึ่งถวายให้ท่านปลูกกระต๊อบอยู่ราวๆ 1 ไร่

มียายชีแก่เฒ่าอยู่เฝ้าคนหนึ่ง

ไม่ว่าหลวงตาจะไปไหนมาไหน สุดท้ายย้อนกลับมาที่นี่เสมอ

ต่อมาคนถูกหวยได้ลาภจากหลวงตามากเข้า พากันลงขันสร้างที่พัก สร้างส้วมดีๆ เพื่ออำนวยความสะดวกถวายหลวงตา
ปรากฏว่าหลังจากนั้นท่านไม่มาที่นี่อีกเลย
เว้นแต่ครั้งที่ยายชีเสียชีวิตแล้ว,ท่านมาทำศพให้ก็หายไปไม่กลับมาอีก

คุณบุญเลิศอธิบายว่าหลวงตาไม่ชอบสถานที่หรูหราสะดวกสบาย
แม้ส้วมก็ไม่เคยใช้
ท่านขุดดินด้วยมือเปล่าแล้วใช้หลุมที่ขุดด้วยมือท่านเองจนตลอดชีวิต

ระหว่างที่ท่านยังอยู่ที่นายายอึ๊บนั้นมีเหตุการณ์น่าสนใจเกิดขึ้น
พ่อลูกคู่หนึ่งขับรถเบนซ์รุ่นล่าสุดเข้ามา
หน้าตาพ่อแบกทุกข์หนัก
ถามไถ่ได้ความว่าลูกสาวที่มาด้วยอายุแค่ 12 ขวบ กลับป่วยเป็นมะเร็งลำไส้
หมอบอกว่าหมดหนทางเยียวยา เชื่อว่าไม่น่าจะมีชีวิตอยู่เกิน 6 เดือน


บังเอิญมีผู้รู้จักแนะนำให้มาหาหลวงตา
บางทีหลวงตาจะช่วยได้
ท่านเคยช่วยคนเป็นมะเร็งรอดตายมาอย่างน้อยคนหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวอำเภอขุขันธ์นี่เอง(จะเล่าให้ฟังต่อไป)

ผู้เป็นพ่อขอร้องให้คุณบุญเลิศช่วยกราบเรียนหลวงตาขอความเมตตาแก่ลูกสาวด้วย

คุณบุญเลิศตอบว่านั่นต้องแล้วแต่หลวงตา ท่านจะช่วยหรือไม่ช่วย ก็สุดแต่ท่าน จะกราบเรียนให้

"หลวงตาหลานหญิงตัวน้อยนี้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ หลวงตาช่วยเขาหน่อย" คุณบุญเลิศกราบเรียนท่านเสียงดัง
"อื๊อ"
ท่านขานรับแล้วไม่ว่าอะไร คงรับแขกด้วยการเขียนหนังสือสื่อสารกับคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยๆ

ขณะหนึ่งมีเด็กสาววัยรุ่นอยู่แถวนั้น กำลังดื่มนมกล่อง ท่านเห็นก็กวักมือเรียก ชี้นิ้วไปที่นมกล่องที่เด็กสาววัยรุ่นกำลังดูดกิน
หล่อนเข้าใจความหมายที่หลวงตาเรียกได้ดี
นำนมกล่องที่ดื่มยังไม่หมดถวายหลวงตา
ท่านรับมาดูดจิบเดียว
แล้วเรียกลูกสาวคนที่กำลังป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ให้เข้าไปหา
ส่งนมกล่องให้ พยักเพยิดให้ดูดกินจนหมด
เด็กหญิงที่ป่วยก็ดื่มจนหมด

เวลาผ่านไปๆ เนิ่นนานจนผู้พ่ออึดอัด
"พ่อเลิศครับ ช่วยเรียนหลวงตาอีกครั้งเถิดครับ"

"ไม่ต้องห่วงหรอกครับเรื่องนี้ เรียนท่านครั้งเดียวก็ไม่ลืม ถ้าท่านจะช่วยท่านก็ช่วยเองหรอก..แต่เอ๊ะ!ที่หลวงตาให้นมกล่องคุณหนูนี่ดื่มไปแล้ว,ไม่ใช่ท่านช่วยแล้วหรือ"

นั่นเป็นเรื่องที่ไม่มีทางทราบชัด

พ่อลูกคู่นี้จำต้องคอยต่อไป โดยที่ไม่แน่ใจว่าอะไรเป็นอะไรแม้สักน้อย

ในที่สุดหมดความอดทนกราบลากลับกรุงเทพ

ต่อมาอีกนานจนลืม
ไม่ทราบว่านานแค่ไหน กี่สัปดาห์กี่เดือน พ่อลูกคู่นี้ย้อนกลับมาอีก พร้อมด้วยรถกระบะติดตาม 2 คัน บรรทุกข้าวของสารพันสารพัดเต็มคันรถทั้ง2คัน เอามาถวายหลวงตา
เขาบอกคุณบุญเลิศว่าลูกสาวปลอดภัยแล้วไม่ตายแน่นอน
หลังจากกลับไปคราวนั้น หมอตรวจไม่พบมะเร็งลำไส้ ทั้งยังสงสัยว่าหายไปเองได้อย่างไร

เขาเชื่อมั่นว่านมกล่องนั้น น่าจะเป็นการช่วยเหลือจากหลวงตาจริงดังที่คุณบุญเลิศสันนิษฐาน

ส่วนข้าวของที่ขนมาถวาย หลวงตาไม่ยอมรับ ท่านเรียกชาวบ้านทั้งหมู่บ้านมารับแจกจนเป็นที่สนุกสนานกัน

ทุกวันนี้ลูกสาว12ขวบก็โตเป็นสาวแล้ว
ยังมีชีวิตอยู่เป็นสุขสบายดี