[ใหม่] น้ำเห็ด 6 สายพันธุ์

ข้อแนะนำในการดื่มน้ำเห็ดสกัดเพื่อสุขภาพ

1.วิธีการรับประทาน วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 30 cc ก่อนอาหารและก่อนนอน แล้วดื่มน้ำตามมากๆ (ประมาณ 2-3 แก้ว) เพราะน้ำจะเป็นตัวพาน้ำเห็ด และสารอาหารต่างๆ ไปหล่อเลี้ยงและฟื้นฟูส่วนต่างๆ ของร่างกาย และจะเข้าไปฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมถอยให้กลับมาแข็งแรงขึ้นเซลล์คือหน่วยย่อยที่เล็กที่สุดของร่างกาย ร่างกายประกอบด้วยเซลล์หลายล้านเซลล์เมื่อเซลล์แข็งแรงขึ้นก็ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

2.ควรทานก่อนอาหารอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงขึ้นไปถึงจะเห็นผลดี ขอแนะนำว่าตอนเช้าคุณตื่นขึ้นมาให้คุณทานน้ำเห็ดเป็นอันดับแรก เพราะว่าการทานน้ำเห็ดก่อนอาหารอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงขึ้นไปจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ สามารถดึงสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ สามารถดึงสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

3.เมื่อท่านเปิดขวดน้ำเห็ดแล้ว ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อคงประสิทธิภาพ

4.สำหรับผู้ที่มีอาการของโรคเบาหวาน และโรคกระเพาะให้ทานน้ำเห็ดหลังอาหาร และดื่มน้ำตามมาก ๆ (ยิ่งมากยิ่งดี)

5.สำหรับผู้สูงอายุ  ที่มีอาการปวดข้อข้อเข่าเสื่อม ชาตามปลายมือปลายเท้า ปวดหลัง ปวดเอว ปวดคอ ปวดหัว ไม่มีแรง หอบ เหนื่อยง่าย กินข้าวไม่ได้ ช่วงแรกที่ทานน้ำเห็ด ท่านจะมีอาการเพิ่มมากขึ้น อย่าตกใจให้ทานต่อไปแล้วอาการจะเริ่มดีขึ้น หรือขึ้นประมาณ 2-3 สัปดาห์

6.การล้างพิษ ในบางรายที่เริ่มทานใหม่ ๆ อาจจะมีอาการไม่สบายท้อง ปวดท้อง ปวดเมื่อย ปวดเข่า ปวดข้อ ปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้อ บวมหรือมีผื่นขึ้น ร้อนๆ หนาวๆ มีเหงื่อออกมาก ไม่ต้องตกใจ หรือหยุดรับประทาน เพราะอาการเหล่านี้เราเรียกว่าวิกฤตบำบัด หรือการล้างพิษ เป็นช่วงของการปรับและฟื้นฟูเซลล์ของร่างกายที่อ่อนแอให้แข็งแรงขึ้น อาการเหล่านี้จะหายภายใน 2-3 สัปดาห์ (ถ้ามีปัญหาเยวกับโรคที่เป็น อาการจะปรากฏโรคให้เห็นหลังจากดื่มน้ำเห็ดไปแล้ว)

7.ข้อแนะนำ ควรทานยาที่แพทย์สั่งเป็นหลัก และควรทานน้ำเห็ดควบคู่ไปด้วยโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด

8.คนเรามีปัญหาสุขภาพร่างกาย และโรคภัยมากน้อยแตกต่างกัน ย่อมมีขนาดในการทานน้ำเห็ดแตกต่างกัน บางคนป่วยมานานมาก บางคนเพิ่งเริ่มป่วย บางคนป่วยหลายโรค  เพราะฉะนั้นขนาดขนาดในการทานจึงแตกต่างกัน บางคนทานขวดเดียวเห็นผล บางคนทาน 2-3 ขวดเห็นผล บางคนทาน 5-6 ขวดถึงจะเห็นผล ควรทำใจให้เป็นกลางและลองทานให้ได้อย่างน้อย 3 ขวด (ทานอย่างต่อเนื่อง) แล้วอาการของคุณจะดีขึ้น วันแรกที่ทานให้คุณจดไว้เลยว่าทานวันที่เท่าไหร่ อาการก่อนทานเป็นอย่างไร รับรองว่าอาการจะดีขึ้นจนคุณพอใจจากผลการทดลอง คน 100 คน อาการเป็นที่น่าพอใจ 80 คน แต่คุณต้องทำตามที่เรานะนำและมีระเบียบในตัวเอง

9.น้ำเห็ดของเรามีจำหน่ายทั่วโลก และมีอย.หรือคณะกรรมการอาหารและยารับรอง อย.13-4-01849-1-0003

10.ภายหลังที่ท่านมีสุขภาพดีขึ้นแล้ว พยายามอย่าหยุดทานให้ทานอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะลดปริมาณน้ำเห็ดลง เพื่อจะให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอโรคภัยได้ไม่กลับมาอีก

เมื่อท่านดื่มน้ำเห็ดเป็นประจำจะช่วยท่านได้ดังนี้

1.ช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลในเลือด จึงช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง

2.ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงช่วยโรคบาหวาน

3สร้างภูมิคุ้มกันโรคจึงช่วยโรคหอบหืดไซนัสภูมิแพ้และชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งซึ่งเป็นสาเหตุโรคต่างๆ

4.ช่วยในระบบย่อยอาหารจึงช่วยผู้มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารลำไส้เล็กลำไส้ใหญ่ท้องผูกและริดสีดวงทวารได้

5.บำรุงตับไต และตับอ่อน และช่วยรักษาโรคดีซ่าน

6.ช่วยฟอกเลือด ขับสารพิษ และขจัดสิ่งปฏิกูลต่างๆ ออกจากร่างกาย

7.ช่วยรักษาโรคผิวหนัง เช่นโรคเรื้อนกวาง สะเก็ดเงิน แผลถลอกต่างๆ ออกจากร่างกาย

8.ช่วยขจัดของเหลวออกจากข้อกระดูก จึงใช้รักษาข้อต่ออักเสบ และโรคเกาต์ได้

9.ช่วยสร้างกระดูกและเนื้อเยื่อแข้งแรงขึ้น

10.ช่วยบรรเทาการเหนื่อยอ่อนทางร่างกาย อาการทางประสาท คลายเครียด ไมเกรน และอาการนอนไม่หลับ

11.ช่วยบำรุงเลือดรักษาโลหิตจาง

12.ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด สมานแผลช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดีขึ้น

 

 

 

 

ปริมาณแนะนำสำหรับการรับประทาน

      ปริมาณที่แนะนำเป็นการดูแลสุขภาพแบบ “แพทย์ทางเลือก” หรือที่เรียกว่าการ “บำบัด” ดังนั้นหากท่าน รับทานยาของแพทย์เป็นหลักสามารถรับ  ประทานควบคู่กันได้โดยไม่เป็นอันตรายหากร่างกายของท่านไม่สมบูรณ์   อาจเกิดปฏิกิริยาต่าง ๆ  ขึ้นได้ เช่น เกิดการปวดในที่ต่าง ๆ ผื่น สิว ขึ้นมากกว่าปกติ  ฯลฯ เราเรียกว่า  “ช่วงวิกฤตบำบัด”  เป็นช่วงของการปรับ  และฟื้นฟูเซลล์ในร่างกายที่อ่อนแอให้แข็งแรงขึ้นการรับประทานควรทาน  น้ำเห็ดก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง  หรือขณะท้องว่าง แล้วควรดื่มน้ำตามมาก ๆ ประมาณ 2-3 แก้ว (น้ำจะทำให้การดูดซึมดีขึ้น)