[ใหม่] ภัยอันตรายในห้องนอนที่คุณคาดไม่ถึง กำจัดไรฝุ่น
348 สัปดาห์ ที่แล้ว
- กรุงเทพมหานคร - เขตจตุจักร - คนดู 7
ภัยอันตรายที่มักเกิดใน ห้องนอน ของคุณ ส่วนใหญ่มักเกิดบริเวณเตียงนอน เพราะเป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น ตัวต้นเหตุของโรคภูมิแพ้ ดังนั้น การหมั่นทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นผลดีอย่างยิ่ง
เมื่อพูดถึงห้องนอนแล้ว ใครๆ ต่างก็ต้องคิดถึงเตียงนุ่มกับหมอนใบนิ่ม และพร้อมที่จะกระโจนใส่เตียงนอนในทันทียามเหนื่อยล้า แต่รู้หรือไม่ว่าใน ห้องนอน ของคุณแฝงไปด้วยภัยเงียบที่คุณคาดไม่ถึง แม้ว่าอาจจะไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็อย่าชะล่าใจนะคะ ยิ่งปล่อยให้เกิดการสะสม หรือยิ่งไม่ระวัง ก็อาจเป็นภัยร้ายกับตัวเราได้ในที่สุด ดังนั้น มาดูวิธีที่กันไว้ดีกว่าแก้น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ
ภัยเงียบในห้องนอน
1.ไรฝุ่นบนเตียงนอน
จากการวิจัยทั้งในและต่างประเทศพบว่า สารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของโรคภูมิแพ้ในเด็ก เจ้าวายร้ายตัวจิ๋วประจำบ้านอาศัยอยู่บนเตียงนอนกับคุณทุกคืนราว 1.5 ล้านตัว ซึ่งรวมไปถึงบนหมอน และผ้าห่มอีกด้วย สำหรับวิธีกำจัดเจ้าไรฝุ่นพวกนี้คือ ต้องหมั่นนำชุดเครื่องนอน หมอน และผ้าห่มไปตากแดดบ่อยๆ เพื่อไล่ความชื้น ไรฝุ่น รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ ชนิดอื่นอีกด้วยค่ะ
2.พรมสกปรกกว่าชักโครก
พรมที่ดูสวยสะอาดตา แท้จริงแล้วมันสกปรกกว่าชักโครกถึง 4,000 เท่า เพราะในพรมสวยๆ ของเราเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย และสิ่งสกปรกชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เศษฝุ่น เศษอาหาร ขน-หนังสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ ฯลฯ จึงทำให้มีแบคทีเรียอาศัยอยู่ประมาณ 2 แสนตัวเลยทีเดียว งานนี้เจ้าชักโครกก็กลายเป็นของสะอาดไปเลยค่ะ ซึ่งเราสามารถจำกัดเชื้อโรคพวกนี้ออกไปได้โดยการดูดฝุ่นออกไป แต่มันก็ไม่ได้สะอาดล้ำลึกอะไรมากนัก ดังนั้น เรียกบริษัททำความสะอาดมาทำความสะอาดปีละ 1 ครั้ง จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
3.หมอนแหล่งสะสมเชื้อโรค
หมอนที่เราใช้หนุนนอนอยู่ทุกวัน เคยสังเกตไหมคะว่าทำไมใช้ไปใช้มามันหนักๆ ขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่าในหมอนของเรามีไรฝุ่น และเซลล์ผิวหนังบนใบหน้าที่ตายแล้วหลุดลอกออกมาเกาะบนหมอน เราจึงควรหมั่นทำความสะอาดหมอนเป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งเหล่านี้ โดยสามารถนำหมอนลงไปซักในเครื่องซักผ้าได้ หากซักแล้วหมอนยุบไม่คืนตัว ก็โบกมือบ๊ายบายแล้วโยนทิ้งได้เลยค่ะ
4.สมาร์ทโฟนตัวดี
ในแต่ละวันเราสัมผัสมือถือกันวันละกี่ครั้ง แต่ก่อนที่เราจะสัมผัสกับมือถือมือ เราก็ไปจับสิ่งของมากมายจนมือสกปรกแล้วก็กลับมาจับโทรศัพท์ อีกทั้งขณะที่เราใช้โทรศัพท์มือถือ หน้าจอก็จะถูกสัมผัสกับเหงื่อ เครื่องสำอางบนใบหน้า เมื่อนานวันเข้าสิ่งสกปรกเหล่านั้นจึงเกิดการสะสม ถ้าไม่ทำความสะอาดก็ยิ่งจะสะสมเพิ่มขึ้นไปอีก วิธีการทำความสะอาดสามารถทำได้โดยการใช้แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาเช็ดหน้าจอมือถือเช็ดบ่อยๆ ถ้าไม่ทำระวังหน้าเป็นสิวไม่รู้ด้วยนะ
5.ศูนย์รวมแบคทีเรียคือชุดนอน
บางคนอาจจะคิดว่าแค่ใส่นอนใน ห้องนอน เฉยๆ ไม่ได้ใส่ไปเจอสิ่งสกปรกนอกบ้าน แต่ในระหว่างที่นอนหลับนั้นจะมีทั้งเหงื่อ และไรฝุ่นที่อยู่บนเตียงสัมผัสกับชุดนอน ถ้าใส่ซ้ำหลายวันอาจจะทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกหมักหมม ทางที่ดีควรใส่ซ้ำไม่เกิน 2-3 วัน หากนานกว่านั้นชุดของคุณจะเริ่มมีกลิ่นเหม็นเหงื่อ และจะทำให้คุณคันได้
6.เหงื่อที่ไหลออกมา
เชื่อหรือไม่!? ในแต่ละปีขณะที่เราหลับ ร่างกายของเราจะผลิตเหงื่อออกมาในปริมาณที่มากถึง 26 แกลลอน ซึ่งออกมาไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ แน่นอนว่าอากาศบ้านเราร้อนระอุขนาดนี้ ก็ต้องทำให้เหงื่อไหลออกเยอะเป็นทำธรรมดา หากคุณนอนห้องแอร์ก็อาจจะไม่รู้สึกตัว แต่ถ้านอนห้องพัดลมร้อนๆ ล่ะก็ มีเหนียวตัวแน่นอน ซึ่งเมื่อร่างกายเราผลิตเหงื่อออกมา ก็จะทำให้เตียงเป็นจุดรับเหงื่อไปเต็มๆ เราจึงควรนำเตียงไปตากแดดฆ่าเชื้อโรค หรือใช้สเปรย์กำจัดเชื้อโรคเข้าช่วยก็ได้ค่ะ
7.ปลั๊กไฟฟ้า
เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ควรเลือกซื้อให้ได้มาตรฐาน อย่าเห็นแก่ของถูกลดราคา คิดว่าปลั๊กแบบไหนก็ใช้ได้ จริงๆ แล้วมันก็ใช้ได้ค่ะ แต่มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยง เสี่ยงต่อชีวิตตัวเองและทรัพย์สินอีกด้วย เนื่องจากอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ อีกทั้งหากในห้องนอนคุณมีเด็กเล็ก ก็ควรหาซื้อที่ปิดรูปลั๊กมาครอบไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเอานิ้วแหย่รูปลั๊กไฟนั่นเอง
8.เตียงนอน
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าที่นอนของเราเป็นแหล่งรวมไร้ฝุ่นมากถึงล้านตัว เราจึงควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่เฉพาะพวกผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนเท่านั้น ยังรวมไปถึงการทำความสะอาดเตียงอีกด้วย เพราะเตียงนอนที่ผ่านการใช้งานมา 8 ปี จะมีปริมาณของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วสะสมอยู่ถึง 4.5 กิโลกรัม ทั้งนี้สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการดูดฝุ่น แม้จะยากลำบากแค่ไหนก็ต้องทำ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณเองนะคะ
9.ไวรัสในร่างกาย
มนุษย์สามารถรับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ ถึงแม้ว่าคนที่เป็นไข้จะไม่ได้อยู่บริเวณนั้นก็ตาม เพราะเจ้าไวรัส และพาหะของไข้ต่างๆ จะอาศัยอยู่นอกร่างกายของคนที่เป็นไข้ได้ 48 ชั่วโมง
10.สัตว์เลี้ยงแสนรัก
คุณอาจจะป่วยได้ถ้านอนกับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ ถึงแม้ว่าเจ้าตูบและเจ้าเหมียวที่บ้านจะอาบน้ำหรือทำความสะอาดมาแล้ว แต่สิ่งสกปรก และเชื้อโรคก็ยังมีหลงเหลืออยู่ คนที่นอนร่วมเตียงกับสัตว์เลี้ยงจึงต้องทำความสะอาดเตียงนอน และเครื่องนอนต่างๆ มากกว่าปกติ ถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณมีเห็บหมัดล่ะก็ มีหวังพวกเห็บหมัดได้ย้ายที่อยู่มาฝังตัวอยู่ที่โคนผมของคุณอย่างแน่นอน
ถึงแม้ดีกรีความรุนแรงจะแผ่วเบา แต่เชื้อโรคและแบคทีเรียเหล่านี้มันสามารถสะสมในร่างกายคุณได้เรื่อยๆ นานเข้าร่างกายของคุณก็จะยิ่งอ่อนแอ มีผลต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้น การทำความสะอาดห้องนอนเป็นประจำคือสิ่งที่คุณควรทำ อย่าปล่อยให้ ห้องนอน รกรุงรัง ถึงแม้การทำความสะอาดจะทำให้คุณเหนื่อยมากก็ตาม แต่มันก็ได้ช่วยกำจัดไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ที่อาจทำให้คุณเจ็บป่วยได้นั่นเอง
สนใจข้อมูลการกำจัดไรฝุ่นคลิ๊กเลย>>https://www.facebook.com/happygurubaan/videos/1963662717230956/
เมื่อพูดถึงห้องนอนแล้ว ใครๆ ต่างก็ต้องคิดถึงเตียงนุ่มกับหมอนใบนิ่ม และพร้อมที่จะกระโจนใส่เตียงนอนในทันทียามเหนื่อยล้า แต่รู้หรือไม่ว่าใน ห้องนอน ของคุณแฝงไปด้วยภัยเงียบที่คุณคาดไม่ถึง แม้ว่าอาจจะไม่รุนแรงมากนัก แต่ก็อย่าชะล่าใจนะคะ ยิ่งปล่อยให้เกิดการสะสม หรือยิ่งไม่ระวัง ก็อาจเป็นภัยร้ายกับตัวเราได้ในที่สุด ดังนั้น มาดูวิธีที่กันไว้ดีกว่าแก้น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ
ภัยเงียบในห้องนอน
1.ไรฝุ่นบนเตียงนอน
จากการวิจัยทั้งในและต่างประเทศพบว่า สารก่อภูมิแพ้จากไรฝุ่นเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของโรคภูมิแพ้ในเด็ก เจ้าวายร้ายตัวจิ๋วประจำบ้านอาศัยอยู่บนเตียงนอนกับคุณทุกคืนราว 1.5 ล้านตัว ซึ่งรวมไปถึงบนหมอน และผ้าห่มอีกด้วย สำหรับวิธีกำจัดเจ้าไรฝุ่นพวกนี้คือ ต้องหมั่นนำชุดเครื่องนอน หมอน และผ้าห่มไปตากแดดบ่อยๆ เพื่อไล่ความชื้น ไรฝุ่น รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ ชนิดอื่นอีกด้วยค่ะ
2.พรมสกปรกกว่าชักโครก
พรมที่ดูสวยสะอาดตา แท้จริงแล้วมันสกปรกกว่าชักโครกถึง 4,000 เท่า เพราะในพรมสวยๆ ของเราเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย และสิ่งสกปรกชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เศษฝุ่น เศษอาหาร ขน-หนังสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ ฯลฯ จึงทำให้มีแบคทีเรียอาศัยอยู่ประมาณ 2 แสนตัวเลยทีเดียว งานนี้เจ้าชักโครกก็กลายเป็นของสะอาดไปเลยค่ะ ซึ่งเราสามารถจำกัดเชื้อโรคพวกนี้ออกไปได้โดยการดูดฝุ่นออกไป แต่มันก็ไม่ได้สะอาดล้ำลึกอะไรมากนัก ดังนั้น เรียกบริษัททำความสะอาดมาทำความสะอาดปีละ 1 ครั้ง จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
3.หมอนแหล่งสะสมเชื้อโรค
หมอนที่เราใช้หนุนนอนอยู่ทุกวัน เคยสังเกตไหมคะว่าทำไมใช้ไปใช้มามันหนักๆ ขึ้น นั่นก็เป็นเพราะว่าในหมอนของเรามีไรฝุ่น และเซลล์ผิวหนังบนใบหน้าที่ตายแล้วหลุดลอกออกมาเกาะบนหมอน เราจึงควรหมั่นทำความสะอาดหมอนเป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งเหล่านี้ โดยสามารถนำหมอนลงไปซักในเครื่องซักผ้าได้ หากซักแล้วหมอนยุบไม่คืนตัว ก็โบกมือบ๊ายบายแล้วโยนทิ้งได้เลยค่ะ
4.สมาร์ทโฟนตัวดี
ในแต่ละวันเราสัมผัสมือถือกันวันละกี่ครั้ง แต่ก่อนที่เราจะสัมผัสกับมือถือมือ เราก็ไปจับสิ่งของมากมายจนมือสกปรกแล้วก็กลับมาจับโทรศัพท์ อีกทั้งขณะที่เราใช้โทรศัพท์มือถือ หน้าจอก็จะถูกสัมผัสกับเหงื่อ เครื่องสำอางบนใบหน้า เมื่อนานวันเข้าสิ่งสกปรกเหล่านั้นจึงเกิดการสะสม ถ้าไม่ทำความสะอาดก็ยิ่งจะสะสมเพิ่มขึ้นไปอีก วิธีการทำความสะอาดสามารถทำได้โดยการใช้แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาเช็ดหน้าจอมือถือเช็ดบ่อยๆ ถ้าไม่ทำระวังหน้าเป็นสิวไม่รู้ด้วยนะ
5.ศูนย์รวมแบคทีเรียคือชุดนอน
บางคนอาจจะคิดว่าแค่ใส่นอนใน ห้องนอน เฉยๆ ไม่ได้ใส่ไปเจอสิ่งสกปรกนอกบ้าน แต่ในระหว่างที่นอนหลับนั้นจะมีทั้งเหงื่อ และไรฝุ่นที่อยู่บนเตียงสัมผัสกับชุดนอน ถ้าใส่ซ้ำหลายวันอาจจะทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกหมักหมม ทางที่ดีควรใส่ซ้ำไม่เกิน 2-3 วัน หากนานกว่านั้นชุดของคุณจะเริ่มมีกลิ่นเหม็นเหงื่อ และจะทำให้คุณคันได้
6.เหงื่อที่ไหลออกมา
เชื่อหรือไม่!? ในแต่ละปีขณะที่เราหลับ ร่างกายของเราจะผลิตเหงื่อออกมาในปริมาณที่มากถึง 26 แกลลอน ซึ่งออกมาไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ แน่นอนว่าอากาศบ้านเราร้อนระอุขนาดนี้ ก็ต้องทำให้เหงื่อไหลออกเยอะเป็นทำธรรมดา หากคุณนอนห้องแอร์ก็อาจจะไม่รู้สึกตัว แต่ถ้านอนห้องพัดลมร้อนๆ ล่ะก็ มีเหนียวตัวแน่นอน ซึ่งเมื่อร่างกายเราผลิตเหงื่อออกมา ก็จะทำให้เตียงเป็นจุดรับเหงื่อไปเต็มๆ เราจึงควรนำเตียงไปตากแดดฆ่าเชื้อโรค หรือใช้สเปรย์กำจัดเชื้อโรคเข้าช่วยก็ได้ค่ะ
7.ปลั๊กไฟฟ้า
เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ควรเลือกซื้อให้ได้มาตรฐาน อย่าเห็นแก่ของถูกลดราคา คิดว่าปลั๊กแบบไหนก็ใช้ได้ จริงๆ แล้วมันก็ใช้ได้ค่ะ แต่มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยง เสี่ยงต่อชีวิตตัวเองและทรัพย์สินอีกด้วย เนื่องจากอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ อีกทั้งหากในห้องนอนคุณมีเด็กเล็ก ก็ควรหาซื้อที่ปิดรูปลั๊กมาครอบไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเอานิ้วแหย่รูปลั๊กไฟนั่นเอง
8.เตียงนอน
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าที่นอนของเราเป็นแหล่งรวมไร้ฝุ่นมากถึงล้านตัว เราจึงควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่เฉพาะพวกผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนเท่านั้น ยังรวมไปถึงการทำความสะอาดเตียงอีกด้วย เพราะเตียงนอนที่ผ่านการใช้งานมา 8 ปี จะมีปริมาณของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วสะสมอยู่ถึง 4.5 กิโลกรัม ทั้งนี้สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการดูดฝุ่น แม้จะยากลำบากแค่ไหนก็ต้องทำ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของคุณเองนะคะ
9.ไวรัสในร่างกาย
มนุษย์สามารถรับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ ถึงแม้ว่าคนที่เป็นไข้จะไม่ได้อยู่บริเวณนั้นก็ตาม เพราะเจ้าไวรัส และพาหะของไข้ต่างๆ จะอาศัยอยู่นอกร่างกายของคนที่เป็นไข้ได้ 48 ชั่วโมง
10.สัตว์เลี้ยงแสนรัก
คุณอาจจะป่วยได้ถ้านอนกับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ ถึงแม้ว่าเจ้าตูบและเจ้าเหมียวที่บ้านจะอาบน้ำหรือทำความสะอาดมาแล้ว แต่สิ่งสกปรก และเชื้อโรคก็ยังมีหลงเหลืออยู่ คนที่นอนร่วมเตียงกับสัตว์เลี้ยงจึงต้องทำความสะอาดเตียงนอน และเครื่องนอนต่างๆ มากกว่าปกติ ถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณมีเห็บหมัดล่ะก็ มีหวังพวกเห็บหมัดได้ย้ายที่อยู่มาฝังตัวอยู่ที่โคนผมของคุณอย่างแน่นอน
ถึงแม้ดีกรีความรุนแรงจะแผ่วเบา แต่เชื้อโรคและแบคทีเรียเหล่านี้มันสามารถสะสมในร่างกายคุณได้เรื่อยๆ นานเข้าร่างกายของคุณก็จะยิ่งอ่อนแอ มีผลต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้น การทำความสะอาดห้องนอนเป็นประจำคือสิ่งที่คุณควรทำ อย่าปล่อยให้ ห้องนอน รกรุงรัง ถึงแม้การทำความสะอาดจะทำให้คุณเหนื่อยมากก็ตาม แต่มันก็ได้ช่วยกำจัดไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ที่อาจทำให้คุณเจ็บป่วยได้นั่นเอง
สนใจข้อมูลการกำจัดไรฝุ่นคลิ๊กเลย>>https://www.facebook.com/happygurubaan/videos/1963662717230956/